8 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับมาเก๊า ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน มาเก๊าได้รับการขนานนามว่าเป็นลาสเวกัสแห่งตะวันออก ในปีที่เจ็ดของการดำรงอยู่ มาเก๊าได้ผงาดขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของโลก โดยรายได้ส่วนใหญ่ของเมืองมาจากคาสิโน เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเยือนมาเก๊ามาเพื่อการพนัน นอกจากคาสิโนแล้ว มาเก๊ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจอีกมากมาย ทั้งสองเป็นคฤหาสน์ อาคาร อาคาร อาร์ตเดโค วันนี้ อยากจะแนะนำให้คุณรู้จักกับอีกด้านหนึ่งของมาเก๊าที่เป็นมากกว่าเมืองคาสิโน ให้ชาว Kapuk.com ทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่นี้
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับมาเก๊า อาณานิคมของชาติยุโรปแห่งแรกและแห่งสุดท้ายในประเทศจีนคือมาเก๊า
8 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับมาเก๊า แม้ว่าหลาย ๆ พื้นที่ของจีนจะเคยตกเป็นอาณานิคมของชาติต่าง ๆ ในทวีปยุโรป แต่มาเก๊า คือ เมืองแรก ๆ ที่ ถูกครอบครองโดยชาติโปรตุเกส ซึ่งพากันมาตั้งรกรากอยู่ในมาเก๊านับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมา ก่อนจะถูกส่งคืนยังจีนเมื่อปี ค.ศ. 1999 นี่เอง ทั้งที่โลกผ่านยุคแห่งการล่าอาณานิคมมานานหลายทศวรรษแล้วก็ตาม ทำให้ปัจจุบันนี้มาเก๊ากลายเป็นเขตปกครองพิเศษร่วมกับฮ่องกง ภายใต้การปกครองในลักษณะหนึ่งประเทศสองระบบ อันเป็นแนวคิดซึ่งมาจากอดีตผู้นำจีนอย่างเติ้งเสี่ยวผิง นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าวันนี้มาเก๊าจะไม่เป็นอาณานิคมของโปรตุเกสแล้ว แต่ภาษาราชการและภาษาที่ยังคงมีอิทธิพลต่อชาวมาเก๊าก็ยังคงเป็นภาษาโปรตุเกสอยู่นั่นเอง รวมทั้งสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมาก
มาเก๊าคือหนึ่งในมรดกที่สำคัญของโลก
หากมองอย่างผิวเผิน มาเก๊าถือเป็นเป็นเมืองที่ทันสมัย ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารสิ่งก่อสร้างอันเป็นสถานประกอบการบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ในหลาย ๆ พื้นที่ อย่างไรก็ดี ในปี ค.ศ. 2005 องค์การยูเนสโก ก็ได้รับรองให้ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของมาเก๊ากลายเป็นมรดกโลกในที่สุด ด้วยพื้นที่แห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยอนุสรณ์สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งถือว่าเป็นผลงานศิลปะชิ้นยอดที่ผสมผสานระหว่างอารยธรรมจีนและยุโรปได้อย่างลงตัวและสวยงาม ดังเช่นจัตุรัสเซนาโด ซากปรักหักพังของโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ และกำแพงเมืองเก่าอันทรงคุณค่า เป็นต้น
แม้ไม่ใช่เมืองใหญ่แต่มาเก๊าคือเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก
มาเก๊าเป็นเมืองที่มี ความหนาแน่นของประชากรสูงที่สุดในโลก นั่นคือ 20,497 คนต่อตารางกิโลเมตร โดยสาเหตุหลัก ๆ ก็เนื่องมาจากมาเก๊ามีแหล่งกาสิโนแห่งใหม่เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี ซึ่งสามารถดึงดูดนักเสี่ยงโชคจากทั่วโลกได้ปีละประมาณ 30 ล้านคนเป็นอย่างน้อย นั่นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมที่นี่ถึงต้องมีโครงการบุกเบิกที่ดินระหว่างสองเกาะทางใต้ของจีน ซึ่งก็คือ มาเก๊าและฮ่องกง ไปเรื่อย ๆ เพื่อใช้รองรับสำหรับการทำให้มาเก๊ากลายเป็นแหล่งการพนันแบบถูกกฎหมาย เพื่อแข่งขันกับมหานครลาสเวกัส ของสหรัฐอเมริกานั่นเอง
อาหารมาเก๊าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างอาหารจีนและโปรตุเกส
อาหารการกินในมาเก๊านั้นมีให้เลือกรับประทานกันอย่างมากมาย โดยแต่ละเมนูก็เรียกได้ว่าเป็นการรวมสิ่งที่ดีที่สุดของส่วนผสมระหว่างอาหารจีนและอาหารโปรตุเกส รวมทั้งวิธีการปรุงอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากการที่มาเก๊าเคยเป็นอดีตอาณานิคมของประเทศโปรตุเกสด้วย ซึ่งอาหารแต่ละเมนูส่วนใหญ่จะเป็นอาหารประเภทอาหารทะเล อย่างปลาคอด ปลาซาร์ดีน ปู ฯลฯ นำมาปรุงรสด้วยเครื่องเทศที่หลากหลายอย่างขมิ้น อบเชย พริก และมะพร้าว เป็นต้น โดยส่วนใหญ่จะใช้วิธีการอบหรือคั่วเป็นเวลานาน ๆ ทั้งนี้ สำหรับเมนูอาหารประจำชาติของมาเก๊า ที่นักท่องเที่ยวควรมาลองสักครั้ง ได้แก่ เมนู Minchi ที่ทำจากเนื้อสับหรือหมูสับ นำมาปรุงรวมกับมันฝรั่ง หัวหอม ซอสถั่วเหลืองหรือไข่ไก่ตามชอบ
ประชากร 1 ใน 5 ของมาเก๊ามีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน
เนื่องจากมาเก๊าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยกาสิโนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่ง คาสิโน แต่ละแห่งนั้นก็จำเป็นต้องใช้พนักงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้น 20% ของประชากรในมาเก๊าจึงประกอบอาชีพภายในกาสิโนที่มีรายได้ดี แต่การรับพนักงานเข้าทำงานในกาสิโนนั้น จะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติของครอบครัวเสียก่อน เพื่อให้ได้พนักงานที่มีความซื่อสัตย์จริง ๆ อีกทั้งผู้ที่เข้ามาเสี่ยงโชคภายในกาสิโนส่วนใหญ่จะเดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง
บาคาร่า (Baccarat) คือเกมยอดฮิตตลอดกาลของทุกกาสิโนมาเก๊า
ปัจจุบันมาเก๊าได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของการพนันโลก ซึ่งส่วนใหญ่กาสิโนทุกแห่งของที่นี่จะมีเกมยอดนิยมที่นักเสี่ยงโชคนิยมเล่นมากที่สุด ก็คือ การเล่นไพ่ชนิดหนึ่งที่ค่อนข้างเล่นง่ายและมีความเสี่ยงต่ำ คือ เกมบาคาร่า (Baccarat) รวมทั้งเกมสล็อตอันเป็นที่นิยมในอันดับต่อมา ซึ่งรายได้ของมาเก๊าที่มาจากบ่อนกาสิโนต่อปีนับว่าเป็นตัวเลขที่มหาศาล โดยมียอดรวมถึง 33,000,000,000 เหรียญสหรัฐ ที่ถือว่ามากกว่ารายได้ของลาสเวกัสถึง 5 เท่า
โคโลอานคือหนึ่งเดียวของสถานที่ที่เงียบสงบในมาเก๊า
Coloane Village เป็นหมู่บ้านริมทะเลเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะมาเก๊า ปัจจุบันนี้น่าจะเป็นสถานที่เงียบสงบและสวยงามแห่งเดียวในมาเก๊า ยังไม่ได้รับอิทธิพลจากแหล่งคาสิโน เนื่องจากกฎระเบียบเกี่ยวกับโฉนดที่ดินในพื้นที่นี้ค่อนข้างเข้มงวด มีความซับซ้อนมากกว่าส่วนอื่น ๆ ของมาเก๊า ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวต้องการใช้เวลาที่เงียบสงบพร้อมชมภาพหมู่บ้านน่ารัก ๆ ถนนที่มีต้นไม้เรียงรายสองข้างทาง ต้องลองสำหรับผู้ที่ต้องการเพลิดเพลินกับทาร์ตไข่แท้ๆ ที่ไม่หวานเกินไป และขนมโคโลอานชื่อดังอื่นๆ ที่คุณไม่ควรพลาด
พิสูจน์ชายหาดสีดำของมาเก๊า
8 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับมาเก๊า มีเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่มีหาดทรายสีดำ และหาด Haqsa ซึ่งแปลว่า อ่าวทรายสีดำ ก็เป็นหนึ่งในชายหาดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดหากมีโอกาสมาที่นี่ ชายหาดธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุด มีความยาวหลายกิโลเมตรและมีชื่อเสียงที่สุดในมาเก๊า ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะโคโลอาน ทรายสีดำของชายหาดที่นี่มีสีที่เป็นเอกลักษณ์เนื่องจากมีแร่ธาตุอยู่บนพื้นมหาสมุทร เกยตื้นขึ้นฝั่งจนเกิดเป็นหาดทรายสีดำ
แม้ว่ามาเก๊าจะกลับคืนสู่ประเทศจีนมาตั้งแต่ พ.ศ. 2542 แต่เมืองแห่งนี้ ณ ปัจจุบันก็ยังเต็มไปด้วยร่องรอยของอิทธิพลประเทศโปรตุเกส ที่มาเก๊าเคยเป็นอาณานิคมมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่ผสมผสมระหว่างศิลปะจีนและโปรตุเกสได้อย่างกลมกลืนและสวยงาม รวมถึงอาหารเมนูต่าง ๆ ที่น่าลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง บวกกับการเป็นศูนย์รวมของบ่อนกาสิโนที่มีมากกว่า 33 แห่งทั่วเมือง จึงไม่แปลกที่วันนี้มาเก๊าจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ทั้งนักเสี่ยงโชค และนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางไปเยือน